BIGFISH ENTERPRISE LIMITED
01 July 2025

รู้ทัน 3 กลยุทธ์โจมตี AI ที่จะเขย่าความปลอดภัยองค์กรไทยในปี 2025”

ปีนี้ไม่ใช่ปีปกติของภัยไซเบอร์—เพราะ AI ไม่ได้แค่เข้ามาช่วยป้องกัน แต่มันกลายเป็นอาวุธในมืออาชญากรไซเบอร์อย่างเต็มรูปแบบแล้ว

จากรายงานของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และ NCSA ไทยเผชิญการโจมตีไซเบอร์กว่า 1,000 ครั้ง ใน 5 เดือนแรกของปี 2025 เกินกว่า 63% ขององค์กรที่ถูกโจมตี ถูกเจาะข้อมูลสำเร็จ และกว่า 52% ต้องยอมจ่ายค่าไถ่เพราะระบบหยุดชะงักหรือข้อมูลรั่วไหล
สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น คือ ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังขับเคลื่อนด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และตรวจจับยากขึ้น

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 3 รูปแบบการโจมตี AI-driven ที่องค์กรไทยต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

 

AI-Powered Credential Stuffing

ภัยเงียบที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน แต่ตรวจจับได้ยากกว่าที่คิด

Credential Stuffing คือการนำฐานข้อมูล Username และ Password ที่หลุดจากแหล่งอื่นมาลองล็อกอินตามระบบต่างๆ แบบอัตโนมัติ ซึ่งเดิมที Hacker ใช้สคริปต์ธรรมดาลองล็อกอินทีละชุด แต่ปัจจุบัน AI Botnet สามารถ:

  • วิเคราะห์พฤติกรรมการล็อกอินของผู้ใช้จริง แล้วปรับความถี่/รูปแบบให้ดูสมจริง
  • หลีกเลี่ยง Rate Limiting โดยหมุน IP และ Device Fingerprint อัตโนมัติ
  • จัดลำดับความน่าจะสำเร็จตามโปรไฟล์เหยื่อ

เคสตัวอย่าง:

มี E-commerce ไทยรายหนึ่งถูกโจมตี Credential Stuffing อย่างหนัก จนระบบล็อกอินล่มกว่า 4 ชม. เพราะ Botnet กว่า 20,000 IP ใช้ AI จำลองพฤติกรรมการเข้าสู่ระบบแบบ “มนุษย์”

วิธีป้องกัน

  • บังคับ Multi-Factor Authentication (MFA) ทุกบัญชี
  • ใช้ Behavior Analytics เพื่อตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ
  • เปิดใช้ Device Fingerprinting และ ReCAPTCHA เวอร์ชันใหม่

 

AI-Enhanced Phishing & Deepfake

Social Engineering ที่เนียนขึ้นจนหลายองค์กรแยกไม่ออก

อีเมลฟิชชิ่งที่เคยสะกดผิดและดูไม่น่าเชื่อถือ ปัจจุบันถูก AI Generative Models สร้างข้อความแบบมืออาชีพในไม่กี่วินาที ยิ่งไปกว่านั้น มีการนำ Deepfake Audio & Video มาปลอมเป็นผู้บริหารเพื่อสั่งการโอนเงิน

ตัวอย่างภัยคุกคาม:

  • AI Phishing Email: เนื้อหาน่าเชื่อถือเหมือนมาจากคู่ค้าจริง
  • Deepfake Call: เสียงคล้าย CEO โทรสั่งงานฝ่ายบัญชี
  • WhatsApp Phishing: ใช้รูป/เสียง Deepfake ส่งข้อความเร่งด่วน

เคสตัวอย่าง:

บริษัทเทคโนโลยีในไทยถูก Deepfake เสียงผู้บริหารโทรหาฝ่ายบัญชี สั่งโอนเงินกว่า 5 ล้านบาทไปบัญชีม้า ก่อนจะรู้ตัวว่าโดนหลอก

วิธีป้องกัน

  • ฝึกอบรมพนักงานเรื่อง Social Engineering และ Deepfake
  • อัปเดตนโยบายยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนก่อนการโอนเงิน
  • ลงทุนใน AI Phishing Detection Solutions

 

AI-Driven DDoS & Adaptive Malware

ภัยจู่โจมอัตโนมัติที่ปรับเปลี่ยนตามระบบป้องกัน

DDoS ยุคเก่าใช้ Botnet โจมตีด้วย Request เดิมๆ จน Firewall บล็อกได้ แต่ AI Botnet ยุคใหม่:

  • เรียนรู้ Pattern ของระบบป้องกัน
  • ปรับ Payload และ Volume แบบเรียลไทม์
  • กระจายทราฟฟิกจากหลาย Region

นอกจากนี้ Adaptive Malware ยังสามารถ:

  • วิเคราะห์ระบบเหยื่อก่อนปล่อย Payload ที่เหมาะสม
  • ซ่อนตัวเองใน Traffic ปกติ

เคสตัวอย่าง:

สถาบันการเงินไทยถูก DDoS ระดับ 500 Gbps นานกว่า 8 ชม. ด้วย Botnet ที่เปลี่ยนรูปแบบ Packet ทุก 30 นาทีจน Scrubbing Center ต้องปรับกลยุทธ์หลายรอบ

วิธีป้องกัน

  • ใช้ Cloud-Based DDoS Protection ที่มี AI Mitigation
  • ทำ Red Team Exercise เพื่อจำลองการโจมตี Adaptive Malware
  • ติดตั้ง Threat Intelligence Feed อัปเดต Signature แบบ Realtime

 

บทสรุป: Year of Cybersecurity

เมื่อ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือของอาชญากรไซเบอร์ ปี 2025 จึงกลายเป็น “Year of Cybersecurity” อย่างแท้จริง
องค์กรไทยควร:

  • ลงทุนใน Cybersecurity มากขึ้น
  • อัปเดตนโยบาย Incident Response Plan
  • ฝึกซ้อม Tabletop Exercise ทุกไตรมาส
  • สร้างวัฒนธรรมความตระหนักรู้ (Security Awareness)

ถ้าองค์กรไม่เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ วันพรุ่งนี้คุณอาจเป็นเหยื่อรายต่อไป